วันอังคารที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2560

พอเพียงแบบไหนเหมาะกับคุณ



หากเอ่ยถึงวิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงเราคงคิดถึงการปลูกผักทำนาทำไร่ อยู่แบบสันโดษธรรมดามีความสุขตามประสาชาวบ้านไม่มีหนี้สิน หลายคนอาจท้อใจ หรือต่อต้านความพอเพียง . เพราะเราเองยังมีความอยากมีบ้านสวย รถยนต์คันงาม สิ่งของอำนวยความสะดวกต่างๆอีกมากมายอยู่นั่นเอง
แต่ความพอเพียงตามที่ผมศึกษาและเข้าใจนั้นมันมีความหมายกว้างและนำไปใช้ได้กับทุกสาขาอาชีพ ความพอเพียงก็คือความฉลาดในการดำเนินชีวิต การวางแผนการใช้เงิน การเรียงลำดับความสำคัญ ซึ่งคนเราทุกวันนี้ยังเรียงลำดับความสำคัญวางแผนรายจ่ายไม่ถูก ยังตามใจกิเลสอยู่คิดว่ามันคือความสุขเอาเงินซื้อความสุขที่ไม่ยั่งยืน .
ความไม่เข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
 จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้คนเราพอมีเงินเดือนก็มีโทรศัพท์มีค่าใช้จ่ายรายเดือนเข้ามาแล้วหรือบางทีก็มีตั้งแต่ยังไม่มีรายได้ด้วยซ้ำ พอมีรายได้ก็อยากซื้อรถยนต์ซึ่งรถยนต์ทุกวันนี้ซื้อง่ายมาก โดยเฉพาะโปรโมชั่นดาวต่ำผ่อนน้อย ซึ่งหลายคนตกหลุมพลางเหล่านี้เพราะดอกเบี้ยสูงและกินยาวนาน เมื่อได้รถยนต์มาแล้ว ก็ต้องสร้างที่จอดรถหมดไปหลายบาทเหมือนกัน   บางคนผ่อนรถยังไม่หมดก็เอารถไปแต่งเครื่องเสียง ใส่ล้อใหม่เสริมนั่นเสริมนี่ไป ทั้งๆที่รถยังไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราเลย แทนที่จะเอาเงินส่วนนั้นมาไว้ผ่อนรถหรือปิดงวดเลย ก็จะได้ส่วนลดดอกเบี้ยอีกด้วยครับ
       เกี่ยวกับโทรศัพท์เมือเราสมัครเสียงเพลงรอสาย ดูดวง รับข่าวฯซึ่งแรกๆก็จะฟรี แต่เดือนต่อไก็คิดเงินการยกเลิกก็ยุ่งยากครับเป็นรายจรายที่มีประโยชน์น้อยมากเมื่อเทียบกับเงินที่เราเสียไป
      เกี่ยวกับการจัดงานตามประเพณีต่างๆของไทยเราก็ฟุ่มเฟือยมากๆบางทีจัดงานบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับพ่อ แม่ที่ล่วงลับ จ้างดนตรีมา คนมาดูคนตรีมีเรื่อทะเลาะชกต่อยวุ่นวายในงานบาดเจ็บล้มตายก็มีแทนที่จะได้บุญตามจุดประสงค์ให้คนมาดูเพื่อความสนุกสนาน (หรือเพื่อเอาหน้าก็ไม่รู้นะ) บางทีจัดงานบุญไปสองสามแสน แต่เงินเข้าวัดไม่ถึงหมื่น บางทีก็ไม่ถึงโรงเรียนด้วยซ้ำไป
       ในชุมชนหมู่บ้านเองก็ทำโครงการที่ไม่ก่อเกิดรายได้หรือมีประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนเยาวชนลูกหลานเลย ในชุมชนแทบจะไม่มองเรื่องการศึกษา ส่วนมากจะทำแต่กิจกรรมเกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธา ที่หาเหตุผลเพื่อส่งเสริมแนวคิดปลูกฝังค่านิยมดีๆให้กับเยาวชนไม่ได้
      คนทุกวันนี้อยู่กับไร่นาน้อยลง คนแต่ก่อนไปไร่นาทั้งวันตอนกลับจากนาได้ผักปลามากิน แต่ทุกวันนี้ไปนาก็ห่อข้าวไปกิน กลับจากนาก็ไปซื้อของกิน ทุกวันนี้เราจึงเห็นได้ไม่ว่าจะไปทางไหนถุงพลาสติก ถ้วยกาแฟ กล่องโฟม เต็มไปหมด โลกเราทุกวันนี้จึงเต็มไปด้วยควันพิษ ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลง ขยะ เสียงรถ
ธรรมชาติเสียหายมากมายเพราะความมักง่ายโงเขลาเบาปัญญาความไม่รู้จักพอของมนุษย์



วันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วิเคราะห์วิถีหน่วยงานต่างในชุมชนที่อาจสะท้อนถึงระดับประเทศได้

บทความนี้หากเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ก็ไม่เป็นไร
กระผมได้วิเคราะห์ตามที่ได้ประสบพบเห็นและคำบอกเล่าเท่าที่ได้พูดคุยกับผู้คนในหลายๆคนหลากหลายสาขาอาชีพตั้งแต่วัยรุ่นยันวัยสูงอายุ . เรามักได้ยินการพัฒนาประเทศการปลูกฝังให้ลูกหลานเยาวชนรักในบ้านเกิด การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของเรา ร้านค้าต่างๆในชุมชนล้วนต้องเสียภาษีให้กับ . อบต.ในท้องถิ่นของตน ล้วนต้องส่งลูกหลานเรียนที่โรงเรียน ล้วนต้องบริจาคเงินเข้าวัด  เข้าโรงเรียนตามแต่โอกาศ แต่เมื่อย้อนนึกถึงเวลาจัดซื้อจัดจ้างไม่ว่าจะโรงเรียนหรือ . อบต.มักจะไปซื้อของตามห้างร้านใหญ่ๆในเมือง . แม้ไม้กวาดหรือไม้จิ้มฟันก็ยังต้องวิ่งเข้าไปซื้อในเมืองใหญ่หรือในตัวจังหวัด . หัวหน้าส่วนราชการต่างๆไม่เคยอุดหนุนร้านค้าเล็กๆในชุมชนเลย แต่กลับอยากได้รับความร่วมมือจากพวกเขาเวลาขายบัตรการกุศลหรือผ้าป่ากฐินต่างๆเพื่อตัวเองจะได้นำไปบริจาคขอใบอนุโมทนามาลดหย่อนภาษี
สิ่งที่น่าแปลกอีกอย่างหนึ่งโครงการต่างๆที่ตกมาสู่ท้องถิ่นในหมู่บ้านซึ่งผู้คนยังมีความแตกแยกและต้องยอมรับว่าหลายหมู่บ้านยังไม่มีศักยภาพพอที่จะคิดวิเคราะห์เขียนโครงการดีๆขึ้นมาสู่ชุมชนแต่กลับได้รับโอกาสให้คิดเขียนขอโครงการขึ้นมาเองซึ่งส่วนมากเท่าที่เห็นก็มีแต่สร้างและปรับปรุงศาลากลางหมู่บ้านซึ่งมีประโยชน์น้อยมากไม่มีส่วนส่งเสริมให้ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ่นเลย . ส่วนข้าราชการที่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ กับต้องทำงานตามนโยบายหน่วยเหนือซึ่งวิเคราะห์แบบรวมๆมาหลายอย่างไม่มีประโยชน์ต่อท้องถิ่นบางท้องถิ่นเลย